วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

การ จัดท่าทาง ของผู้รับการนวด

Exercise-yoga95: 2 } วิธีการ "วางมือ" เมื่อนวดกล้ามเนื้อ  <<  ก่อนหน้า

การนวดนั้นถือว่าเป็นศิลปะ
ซึ่งผู้นวดต้องมีความรู้เกี่ยวกับการนวดโดยควรมีความรู้เกี่ยวกับระบบกล้าม เนื้อต่าง ๆ ภายในร่างกาย ตลอดจนต้องมีความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการนวด การวางมือของผู้นวด การจัดท่าทางของผู้รับการนวด รวมถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ประกอบการนวด เพราะการนวดที่มีประสิทธิภาพจะต้องเกิดจากการที่ผู้นวดต้องมีทักษะการนวด และเข้าใจวิธีการนวด ตลอดจนต้องมีอุปกรณ์ เครื่องใช้ ประกอบการนวดที่เหมาะสม

อุปกรณ์ เครื่องใช้ประกอบการนวด
 
อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการนวดนั้น แบ่งออกเป็น (พิสิฐ วงศ์วัฒนะ)
1 น้ำมัน และภาชนะบรรจุ น้ำมันที่ใช้ในการนวด ประกอบด้วย
1.1น้ำมันพืชธรรมดา ซึ่งประกอบด้วยน้ำมันเมล็ดทานตะวัน, น้ำมันเมล็ด ดอกคำฝอย หรือน้ำมันมะพร้าว โดยอาจใช้น้ำมันที่มีกลิ่นหอม เช่น น้ำมันจันทน์ น้ำมันดอกมะลิ น้ำมันดอกส้ม น้ำมันส้มจีน
1.2 น้ำมันเมล็ดอัลมอนด์ เป็นน้ำมันที่ดีที่สุด แต่ราคาแพง
1.3 น้ำมันมะกอก
1.4 น้ำมันแร่ เช่น เบบี้ออยล์ แต่การดูดซึมจะไม่ดีเท่าที่ควร
1.5 น้ำมันเสจ (sage) เหมาะสำหรับผู้ถูกนวดที่มีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อ ภาชนะที่ใช้บรรจุ อาจใช้ขวดที่มีจุกไม้ก๊อก หรือขวดหยดชนิดพลาสติกที่มีที่ตั้งอย่างมั่นคง ไม่ล้มง่าย น้ำมันจะช่วยหล่อลื่น และทำให้การนวดเคลื่อนที่และออกแรงกดได้ราบเรียบ ละมุนละม่อม และไม่ก่อให้เกิดความฝืด

2 แป้งฝุ่น แป้งฝุ่น ช่วยลดการเสียดสีระหว่างฝ่ามือกับผิวหนัง แต่ประสิทธิภาพอาจไม่ดีเท่าน้ำมัน แต่อาจจำเป็นต้องใช้กรณีผู้รับการนวดไม่นิยมความเหนอะหนะของน้ำมัน หรือกรณีที่ไม่มีน้ำมันใช้นวด


3 ผ้ารองหลัง ผ้ารองหลังหรือผ้านวม ใช้ในกรณีการนวดบนพื้น จำเป็นต้องมีผ้ารองหลังที่พอเหมาะ โดยควรมีความกว้างประมาณ 7 ฟุต x 4 ฟุต และมีความหนา 1/2 หรือ 1 นิ้ว และให้ใช้ผ้าพลาสติกผืนใหญ่ปูทับผ้ารองหลังหรือผ้านวมเพื่อป้องกันน้ำมัน ซึมเปื้อนไปยังผ้ารองหลังหรือผ้านวม


4 เตียงนวด เตียงนวดที่ดี ควรมีขนาดใหญ่พอรับน้ำหนักตัวผู้รับการนวดได้ และแข็งแรงมั่นคง โดยทั่วไปควรมีขนาด 6 x 3 ฟุต โดยเตียงนวดจะช่วยลดการก้มหลัง เหมาะสำหรับการนวดที่ใช้เวลานาน เตียงนวดจะช่วยให้ผู้นวดเปลี่ยนตำแหน่งเข้าหาผู้ถูกนวดได้อย่างต่อเนื่อง และไม่ขาดตอน


5 หมอนรองข้อเท้า หมอนรองข้อเท้า จะช่วยรองรับน้ำหนักบริเวณที่มีการนวดตามข้อต่อต่างๆ โดยทั่วไปควรมีความยาวประมาณ 2 ฟุต มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว


การจัดท่าทาง ของผู้รับการนวด
การนวดเป็นการลื่นไหล การสัมผัสระหว่างผู้นวดและผู้ถูกนวด ดังนั้นผู้นวดและผู้ถูกนวดจึงมีความสำคัญเท่ากัน การที่จะนวดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้น ผู้ถูกนวดจึงต้องมีบทบาทอยู่ด้วยเช่นกัน การรับการนวดสัมผัสที่เหมาะสมที่สุด ผู้นวดควรแนะนำผู้ถูกนวดโดยให้มีการวางท่าทาง และการปฏิบัติดังนี้
1 ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหรือหงาย โดยวางมือทั้งสองราบกับเตียง แล้วหลับตา
กำหนดลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ
2 ปล่อยวางจากปัญหาและความวิตกต่าง ๆ
3 การนอนนวดในสภาพที่ไม่มีเสื้อผ้าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะผู้นวดสามารถนวด กล้ามเนื้อ
ถึงระบบจุดต่าง ๆ ตลอดจนการทาน้ำมันได้สะดวก แต่หากผู้ถูกนวดไม่สบายใจ
ก็ควรให้สวมเสื้อผ้าบางชิ้นได้
4 ผู้ถูกนวดควรถอดแหวน สร้อยคอ ต่างหู และเครื่องประดับต่าง ๆ ตลอดจน แว่นตา
หรือคอนแท็กซ์เลนส์ เพราะการนวดบางท่าอาจต้องมีการวางน้ำหนักมือบนเปลือกตา
5 ผู้ถูกนวดไม่ต้องพยายามช่วยเหลือผู้นวด เช่น ช่วยออกแรงยกแขนหรือขา ควร
ให้ผู้นวดเป็นผู้กระทำ เพราะการช่วยเหลือของผู้ถูกนวด จะเป็นการทำลาย
ความต่อเนื่องของความรู้สึกต่อการนวดสัมผัส
6 การพูดจาระหว่างการนวด ควรมีให้น้อยที่สุด เพราะจะทำลายจังหวะการนวด
7 เมื่อสิ้นสุดการนวด ไม่ควรลุกขึ้นทันที ควรหลับตาต่อไปสักครู่ แล้วจึงค่อยลุกขึ้น 





 มารยาทของผู้ที่นวด

 1. การพูดคุยระหว่างการนวด ควรปราศจากสิ่งรบกวนต่าง ๆ หากในห้องมีโทรศัพท์ ควรย้ายโทรศัพท์ออกไปนอกห้อง เพื่อไม่ให้เป็นการทำลายสมาธิ หรือหากลำบากในการเคลื่อนย้ายก็ควรที่จะทำการยกหูออกจากแป้นเสีย เนื่องจากเสียงจากกริ่งโทรศัพท์นั้น สามารถทำลายสมาธิทั้งผู้ให้นวด และผู้รับการนวดด้วย การนวดเป็นการบำบัด บรรเทาอาการเจ็บป่วย ทำให้ผู้ถูกนวดรู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนั้น การนวดยังทำให้ช่วยกระตุ้นหรือผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทำให้ผู้รับการนวดบรรเทาความเครียด บำบัดอาการปวดได้ ซึ่งในการนวดนั้นมีข้อปฏิบัติที่ควรกระทำ ดังนี้คือ การปฏิบัติตนระหว่างทำการนวด การปฏิบัติตนระหว่างทำการนวดนั้น ควรจัดให้ผู้รับการนวดอยู่ในที่สะอาด เงียบสงบ และมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก บรรยากาศในห้อง และนอกจากนี้อาจทำให้การนวดขาดตอนกลางคัน ซึ่งไม่ได้เป็นผลดีสำหรับการนวดเลย สำหรับการฟังดนตรีในระหว่างการนวดนั้น บางครั้งผู้รับการนวดอาจต้องการผ่อนคลายอารมณ์ในขณะที่ทำการนวด แต่หากว่าภายในห้องนั้นเงียบสงบเกินไป ก็อาจจะทำให้เกิดความวิตกกังวล หรือหวาดกลัวได้ ดังนั้นหากเป็นความต้องการของผู้รับการนวด ก็อาจจะเปิดเพลงที่มีจังหวะช้า ๆ ไม่กระแทกกระทั้นหรือเสียงแหลมเกินไป ซึ่งโดยปกติแล้ว มักจะทำการเปิดเพลงบรรเลงประเภทคลาสสิค ซึ่งจะทำให้ได้บรรยากาศ และอาจช่วยผ่อนคลายได้ แต่หากเป็นการเปิดเพลงประเภทมีเนื้อร้องด้วยแล้ว อาจเป็นการทำลายสมาธิได้ เพราะทั้งผู้ทำการนวดและผู้รับการนวดอาจจะร้องเพลงตามไปด้วย ซึ่งทำให้เสียสมาธิทั้งสองฝ่ายได้ สำหรับการพูดคุยกันระหว่างการนวดนั้น โดยปกติแล้วการพูดคุยจะถือว่าเป็นการทำลายสมาธิของการนวด แต่หากขั้นแรกของการพูดคุยนั้น เป็นการสอบถามเพื่อให้ทราบถึงความต้องการของผู้รับการนวด อาทิเช่น การสอบถามถึงเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ การมีบาดแผลบริเวณใดบริเวณหนึ่ง เพื่อที่ผู้ทำการนวดจะได้หลีกเลี่ยงการนวดในบริเวณนั้น หรืออาจจะ ตัดสินได้ว่า ควรทำการนวดหรือไม่ นอกจากนี้ การสอบถามถึงอาการของโรคภัยไข้เจ็บนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับการเริ่มต้นนวด เพราะหากไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ก่อน การนวดก็อาจจะกลายเป็นโทษไปได้ แทนที่จะทำให้ผู้รับการนวดได้ประโยชน์ เนื่องจากบางโรคก็มีข้อยกเว้นสำหรับการนวด อาทิเช่น โรคผิวหนังต่าง ๆ ที่อาจมีการแพร่ของเชื้อได้, โรคมะเร็ง ซึ่งอาจแพร่เชื้อโดยการกระตุ้นและกระจายไปตามกล้ามเนื้อต่าง ๆ (พิสิฐ วงศ์วัฒนะ. 2539) แม้ในขณะการนวด ก็อาจทำการพูดคุยกันได้ในลักษณะของการสอบถามถึงความรุนแรงของการกดนวดของผู้ ทำการนวด เพราะในบางครั้งน้ำหนักมือของการกดนวดของผู้ทำการนวดอาจแรงไปหรือเบาไป ซึ่งหากไม่มีการพูดคุยหรือสอบถามกัน ความพึงพอใจที่จะเกิดขึ้นก็อาจจะไม่มี การแนะให้ผู้รับบอกให้รู้ว่าขณะที่ถูกนวดนั้นเจ็บหรือไม่ หรือนวดเร็วไป ช้าไป เพื่อผู้นวดจะได้ปรับน้ำหนักและจังหวะให้พอเหมาะกับความต้องการของผู้รับการ นวดได้ นอกจากนี้ หากผู้รับการนวดรู้สึกสบายจนอยากส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ หรือสูดปาก หรือถอนหายใจแรง ๆ ฯลฯ ก็สามารถที่จะกระทำได้ เพราะการส่งเสียงเป็นการแสดงออกตามธรรมชาติ และจะช่วยทำให้ผู้รับการนวดรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

 2. การแต่งกายของผู้นวด เมื่อทำการนวด ความสำคัญอยู่ที่ผู้นวด โดยผู้นวดจะต้องเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นอิสระ ดังนั้นจึงจำเป็นที่ผู้นวดจะต้องสวมใส่เสื้อผ้าที่จะสามารถช่วยให้เกิดความ เคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น มีความเป็นอิสระในการเคลื่อนย้ายตัวเอง หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ดังนั้นรายละเอียดของการแต่งกายของผู้นวด ควรมีรายละเอียดต่อไปนี้
          2.1 ควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่หลวม สวมใส่สบาย
          2.2 ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำให้เคลื่อนไหวได้สะดวก ไม่รัดตึงจนเกินไป
          2.3 เสื้อผ้าที่สวมใส่ควรจะเป็นเสื้อผ้าที่สะอาด ไม่มีกลิ่นชื้น อับ และคราบสกปรก ต่าง ๆ เนื่องจาก ผู้นวดจะต้องใกล้ชิดกับผู้รับการนวด ซึ่งจะทำให้เกิดความ รู้สึกที่ไม่ดีสำหรับผู้รับการนวดได้
          2.4 เสื้อผ้าที่สวมใส่นั้น ไม่ควรเป็นสีที่ฉูดฉาดจนเกินไป หรือเป็นลายที่ค่อนข้าง เยอะ ไม่ว่าจะเป็นลายดอกไม้ หรือลายอื่น ๆ ก็ตาม เพราะจะทำให้ผู้รับการนวดนั้น ขาดสมาธิได้
          2.5 ผู้ทำการนวดไม่ควรพรมน้ำหอม เนื่องจากกลิ่นน้ำหอมนั้นอาจทำให้ผู้รับการ นวดเกิดอาการเวียนศีรษะได้ เพราะกลิ่นน้ำหอมนั้น อาจไม่เข้ากับอุปกรณ์การนวดที่กำลังทำการนวด เช่น น้ำมันสำหรับทาตัว ซึ่งอาจก่อให้ผู้รับการนวดเกิดอาการเวียนศีรษะได้ ดังนั้นจึงควรละเว้นจากการพรมน้ำหอม
          2.6 ผู้ทำการนวดไม่ควรสวมใส่เครื่องประดับต่าง ๆ อาทิเช่น สร้อยคอ กำไล นาฬิกา หรือแหวนต่าง ๆ เนื่องจากอาจก่อความรำคาญให้แก่ผู้รับการนวด เพราะบางครั้งการนวดนั้นจะต้องสัมผัสร่างกายทุกส่วน ซึ่งอาจทำให้เกิดการเกี่ยวหรือก่อความรำคาญให้กับผู้รับการนวดได้ในขณะนวด 


     3. การแต่งกายของผู้รับการนวด การนวดนั้น เริ่มต้นด้วย "การสัมผัส" ไม่ว่าการนวดนั้นจะใช้เวลานานแค่ไหน การสัมผัสทำให้สามารถกำหนดจังหวะของการนวดได้ และยังช่วยผ่อนคลายได้ในบริเวณที่กำลังถูกนวดอยู่ โดยการกดและการบีบนวด เพื่อปลดปล่อยความเครียดที่มีอยู่ในกล้ามเนื้อ เราจะเห็นได้ว่า ความสำคัญของการนวดนั้น อยู่ที่ผู้นวดได้ทำการสัมผัสกับร่างกายของผู้รับการนวดอย่างเต็มที่ ฉะนั้น การแต่งกายของผู้รับการนวดจึงมีความสำคัญต่อการนวดในแต่ละครั้งที่ทำการนวด โดยปกติแล้ว หากทำการนวดด้วยการทาน้ำมันแล้ว มักจะไม่สวมเสื้อผ้าเลย เพราะการทาน้ำมันนั้น จำเป็นต้องทาให้ทั่วร่างกาย และทำการนวดทุก ๆ ส่วนของร่างกาย ซึ่งจะให้ผลที่ดีมากสำหรับการนวด แต่หากผู้รับการนวด รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ และไม่สะดวกใจในการที่จะไม่สวมเสื้อผ้า ก็อาจจะแนะนำผู้รับการนวด ดังรายละเอียดต่อไปนี้
        3.1 ควรสวมเสื้อผ้าที่หลวมสบาย เนื้อผ้าไม่หนาจนเกินไป
        3.2 ไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่ใช้ผ้าค่อนข้างลื่น เช่น ผ้าแพร หรือผ้าจอร์เจีย เพราะจะ ทำให้การนวดไม่ดีเท่าที่ควร
        3.3 ไม่ควรสวมกางเกงยีนส์หรือเสื้อยีนส์ เพราะเนื้อผ้าค่อนข้างหนา ทำให้การนวด ไม่สามารถนวดได้ถึงกล้ามเนื้อของผู้รับการนวด
        3.4 ไม่ควรติดเครื่องประดับตามร่างกาย เช่น ปิ่นปักผม กิ๊บ แว่นตา หรือ คอนแทคเลนส์ เพราะเป็นอุปสรรคต่อการนวด และอาจก่อให้เกิดอันตรายสำหรับผู้นวด และผู้ให้นวดด้วย เช่น เข็มของปิ่นปักผม หรือเข็มของเข็มกลัดต่าง ๆ
        3.5 หากผู้รับการนวดมีนาฬิกาหรือแหวนประดับต่าง ๆ ควรทำการถอดออกเสียก่อน เพราะจะทำให้กีดขวางการนวด และกีดขวางการไหลเวียนของโลหิต 


Exercise-yoga95

2 } วิธีการ "วางมือ" เมื่อนวดกล้ามเนื้อ

Exercise-yoga95: วิธีการ "วางมือ" เมื่อนวดกล้ามเนื้อ  << ก่อนหน้า  1-10

11.นวดเอ็นร้อยหวาย เอ็นร้อยหวายเล็กและบาง นวดโดยใช้นิ้วหัวแม่มือกับปลายนิ้วชี้ค่อย ๆ บีบขึ้น


4_11
วิธีการ "วางมือ" เมื่อนวดกล้ามเนื้อ

12.การวางมือโดยใช้ปลายนิ้วหัวแม่ มือ การวางมือโดยใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือ จะใช้นวดโดยการกดลงไปบริเวณกล้ามเนื้อที่จะนวด เช่น กล้ามเนื้อข้อมือ ข้อเท้า บริเวณข้อนิ้วต่าง ๆ 

1} วิธีการ "วางมือ" เมื่อนวดกล้ามเนื้อ

Exercise-yoga95
1.การวางมือ .....การวางมือโดยใช้พื้นที่เต็มฝ่ามือนั้น จะใช้เมื่อนวดกล้ามเนื้อหลัง และนวดกล้ามเนื้อแขน และกล้ามเนื้อขา โดยมีวิธีการวางมือในการนวด 

4_01
วิธีการ "วางมือ" เมื่อนวดกล้ามเนื้อ

2. การวางมือเมื่อนวดกล้ามเนื้อ หลังจะใช้ฝ่ามือเต็มฝ่ามือทั้งสองข้าง วางบนแผ่นหลังพร้อมกับกด บีบ ไล่ขึ้นไปตามแผ่นหลัง 

3 } วิธีการ การนวดเพื่อสุขภาพ

การทาน้ำมัน..
การนวดแขนและมือ ผู้นวดต้องอยู่ด้านข้างของผู้ถูกนวดตรงระดับมือ และหันหน้าไปทางศีรษะของผู้ถูกนวด โดยปกติจะทาน้ำมันและนวดกระตุ้นที่แขนก่อน โดยนวดวิธีไล้ยาว ไล่ลมแขนด้านล่าง งอแขนช่วงล่างของผู้ถูกนวดให้ข้อศอกวางอยู่บนพื้นด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างจับข้อมือผู้ถูกนวดด้วยหัวแม่มือและนิ้ว หันปลายหัวแม่มือขวางข้อมือบีบขึ้นจากปลายแขนสู่ข้อศอก (นวดซ้ำ)



8_53
วิธีการ การนวดเพื่อสุขภาพ
27. การนวดแขน
ไล่ลมแขนด้านบน งอแขนผู้ถูกนวดทั้งแขน

2 วิธีการ การนวดเพื่อสุขภาพ 16-25

Exercise-yoga95: วิธีการ การนวดเพื่อสุขภาพ << ก่อนหน้า 1-15 

16.เคล้นนิ้วเท้า
จับนิ้วเท้าทีละนิ้วด้วยนิ้วชี้ และหัวแม่มือกระตุกเบาๆ หมุนนิ้วเท้าไปทาง ด้านหนึ่งด้านใด และกลับอีกด้านหนึ่ง เลื่อนนิ้วที่นวดออกไปตามนิ้วเท้า

8_40
วิธีการ การนวดเพื่อสุขภาพ
17.นวดตาตุ่ม
จับขาไว้ให้แน่นด้วย มือข้างหนึ่ง นวดด้วยนิ้วและหัวแม่มืออีกข้างไปรอบๆ ข้อเท้า และรอบๆ ตาตุ่ม นวด

1} วิธีการ การนวดเพื่อสุขภาพ

อาจารย์วิทยา ปัทมะรางกูล     เรียบเรียง     เผยแพร่...โดย จรินทร์ โฮ่สกุล    
1.ฝ่า เท้า
ผู้นวดอยู่ด้านนอกของขาผู้ถูก นวด กดด้วยนิ้วมือลงบนฝ่าเท้าไล้ยาวจากส้นเท้าถึงบริเวณปลายเท้า โดยสลับกับการใช้กำปั้นหลวมๆ หมุนคลึงลงบนฝ่าเท้า 
8_24
วิธีการ การนวดเพื่อสุขภาพ

 
2.ข้อเท้า (เอ็นร้อยหวาย)
ข้อเท้า (เอ็นร้อยหวาย) ผู้นวดบีบเนื้อที่อยู่ระหว่างกระดูกข้อเท้า และบีบไล้ไปตามแนวของเอ็นร้อย

บำบัด เสริมการรักษาโรคทางอารมณ์และจิตใจ

***บำบัด เสริมรักษาโรคทางอารมณ์ คลิ๊ก เลื่อน ซ้ายหรือขวา***

บำบัด เสริมรักษาโรคทางอารมณ์  คลิ๊ก  เลื่อน ซ้ายหรือขวา



โปรดทราบว่าเพื่อให้ผู้รับได้รับประโยชน์ เต็ม Reiki, ผู้ให้อย่างน้อยควรเป็นแพทย์ระดับ I แต่ทุกคนที่มีความตั้งใจบวกสามารถ channel รักษาพลังงาน

Reiki เป็นรูปแบบของเทคนิคการรักษาใช้การบำบัดเสริมการรักษาโรคทางอารมณ์และจิตใจ การปฏิบัตินี้ เป็นไปตามรอบเข้าใจว่าชีวิตคือการสนับสนุนโดย unseen ชีวิต force - พลังงาน (Ki) เมื่อพลังงานนี้ต่ำหนึ่งมีโอกาส ที่จะ ล้มป่วย ประกอบ การใช้พลังงานนี้กำลังชีวิต channeled ผ่านมือของพวกเขาเพื่อนำมาเกี่ยวกับการพักผ่อนและรักษาผู้ป่วย Reiki บำบัดได้รู้จักกันอย่างกว้างขวางมีผล (อัศจรรย์บางครั้ง) บวกในการรักษาเกือบทุกโรคที่รู้จักและเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยมักจะถูกรักษา
123

@@ ฝึกโยคะ ทั้งหมด 21 ท่า @@

Exercise-yoga95 Headline Animator